กรณี1 ธนาคารจะติดต่อให้ผู้ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์มาชำระค่าภาษีรถประจำปีกับธนาคารโดยตรง และธนาคารดำเนินการไปต่อภาษีรถประจำปีให้ และรอรับแผ่นป้ายภาษี (อาจจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมโปรดสอบถามทางธนาคารที่ให้สินเชื่อรถได้โดยตรง)
กรณี2 ผู้ผ่อนค่างวดสินเชื่อรถสามารถไปติดต่อที่กรมขนส่งทางบกด้วยตนเองเพื่อชำระภาษีรถยนต์ประจำปีด้วยตนเอง พร้อมนำสำเนารถยนต์ติดไปด้วยก็ต่อภาษีรถประจำปีได้แล้ว (จ่ายตามใบเสร็จขนส่ง)
กรณี3 ผู้ผ่อนค่างวดสินเชื่อรถได้ว่าจ้างให้คนที่เค้ารับจ้างต่อภาษีรถประจำปีอยู่แล้วให้ดำเนินการต่อภาษีแทนโดยมอบสำเนารถยนต์และให้เค้าลอกลายตัวถังรถยนต์ไปดำเนินการแทนก็ได้ (จ่ายค่าบริการตามแต่ตกลง)
ไม่ว่าจะเลือกแนวทางไหนในการชำระภาษีประจำปีรถยนต์ของรถที่ยังชำระค่างวดสินเชื่อรถอยู่ก็ขอให้จ่ายภาษีอย่าเกินกำหนดเพราะเกินวันเสียภาษีจะมีเบี้ยปรับร้อยละ1%ต่อเดือนนะจ๊ะ จะต่อภาษีห้ามลืมพรบ.รถด้วย พรบ.รถเก๋งก็645บาท พรบ.รถกระบะ(รย.3)ก็เก้าร้อย ถ้าเป็นพรบ.รถป้ายเหลืองสาธารณะก็แพงหน่อยสองพันบาท ถ้าซื้อพรบ. ไม่ครบปีก็อาจจะจ่ายไม่ถึง รถยนต์ที่มีอายุเกิน7ปี จะต้องนำรถไปตรวจสภาพต่อภาษีรถประจำปีด้วย สำหรับรถที่ติดแก๊สอัดธรรมชาติจะต้องเอารถไปด้วยสภาพต่อภาษีรถยนต์ทุกปีตั้งแต่ปีที่1 ภาษีรถที่ไม่ได้ต่อภาษีเกิน3ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับแล้วจะยุ่ง รถที่ยังผ่อนสินเชื่อรถอยู่ก็อย่าลืมต่อภาษีรถยนต์ล่ะ