ประการแรกเลยที่ต้องควรรู้ก็คือรถมือสองคันที่นำมารีไฟแนนซ์รถยื่นขอสินเชื่อได้ถึง 300000 หรือเปล่าเพราะว่ารถแต่ละแบรนด์ แต่ละโฉมรถ แต่ละปีรถก็จะมีราคาประเมินของธนาคารที่ไม่เท่ากัน ถ้าราคาประเมินรถของลิสซิ่งน้อยกว่า300000การที่จะขอรีไฟแนนซ์รถให้ได้ถึง300000ก็เป็นไปได้ยากเพราะว่าทางผู้ให้สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถจะให้วงเงินสินเชื่อประมาณ80%ของราคาประเมินเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละลิสซิ่งรถ แต่ในทางกลับการถ้าราคาประเมินรถของธนาคารมากกว่า300000 เช่น ราคาประเมินอยู่ที่450000 ก็จะสามารถขอสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์อาจจะได้สูงกว่า 300000
ประการที่2จะต้องทราบดอกเบี้ยรถมือสองว่า รถยนต์ของคุณที่นำมารีไฟแนนซ์เป็นรถปีอะไร มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ต้องชำระกี่เปอร์เซ็นต่อปี
ประการที่3จะต้องทราบว่าตัวคุณจะจ่ายค่างวดจากการรีไฟแนนซ์รถระยะเวลาสั้น ยาว กี่งวด ข้อควรจำในการเลือกผ่อนรีไฟแนนซ์รถที่ระยะสั้นดอกเบี้ยจะต่ำกว่าการเลือกผ่อนรีไฟแนนซ์รถระยะเวลายาวๆ
สมมุติว่าขอรีไฟแนนซ์ด้วยสินเชื่อ 300000 ดอกเบี้ยรถ 4%ต่อปี เลือกผ่อนระยะเวลา3ปี
(300000 คูณ 1.12 คูณ 1.07) หาร 36 เท่ากับค่างวดสินเชื่อที่จะต้องผ่อน 9987 ต่องวด
สมมุติว่าขอรีไฟแนนซ์ด้วยยอด 300000 ดอกเบี้ยรถ 5%ต่อปี เลือกผ่อนระยะเวลา5ปี
(300000 คูณ 1.25 คูณ 1.07) หาร 60 เท่ากับค่างวดรถยนต์ที่จะต้องส่ง 6688 ต่อเดือน
ปัจจัยที่นำมาคำนวณค่างวดรถจากการทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถมือสองก็คือ อายุรถยนต์ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยต่อปี และ ระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อ ที่สำคัญการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะVATทุกคันที่โอนรถยนต์
สมมุติรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่300000 ดอกเบี้ย3%ต่อปี
ถ้าผ่อนที่1ปี ต้องส่งรถต่อเดือน 27553
ถ้าผ่อนที่2ปี ค่างวดจะเท่ากับ 14178
ถ้าผ่อนที่36งวด จะต้องผ่อนต่องวด 9720
ถ้าผ่อนที่48งวด ต้องส่งรถต่อเดือน 7490
ถ้าผ่อนที่60งวด ค่างวดจะเท่ากับ 6153
ตัวอย่างรีไฟแนนซ์รถมือสองที่300000 ดอกเบี้ยที่5%ต่อปี
ถ้าผ่อนที่12งวด จะต้องผ่อนต่องวด 28088
ถ้าผ่อนที่24งวด ค่างวดจะเท่ากับ 14713
ถ้าผ่อนที่36งวด ต้องส่งรถต่อเดือน 10255
ถ้าผ่อนที่4ปี ค่างวดจะเท่ากับ 8025
ถ้าผ่อนที่5ปี ต้องส่งรถต่อเดือน 6955
จะเห็นได้ว่าเมื่อดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์รถที่สูงขึ้น ค่างวดก็จะขยับเพิ่มขึ้น และเลือกระยะเวลาในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ผ่อนที่ยาวขึ้นค่างวดที่ต้องผ่อนก็จะน้อยลงต้องแลกกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นเหมือนกัน